: ฅนบางกอก
02/7/2566
……….ตั้งวง เล่าต่อ… เรื่องรถไฟลอยฟ้ากับเมืองเก่าอโยธยา หากสถานีรถไฟลอยฟ้าปรับมาเป็นสถานีรถไฟใต้ดิน นอกจากจะไม่ทำให้ภูมิทัศน์เมืองเก่าต้องกลายเป็นเมืองที่เสียโฉมแล้ว การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมของโลกปัจจุบันให้ถูกที่-ถูกทางจะยังช่วยให้สิ่งที่มีคุณค่าไม่เปลี่ยนสภาพมากจนเกินไปด้วย และยังจะได้ข้อมูลใหม่ๆ เช่นหลักฐานใต้ดินที่พบเพิ่มจากการขุดสำรวจในวงจำกัด (เฉพาะพื้นที่จะสร้างอาคารสำหรับการโผล่ขึ้นมาจากใต้ดิน) ซึ่งเป็นการช่วยเติมภาพ “จิ๊กซอว์” ของ “อโยธยา-อยุธยา” ให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
……….แต่ถ้าตอม่อแบบรถไฟลอยฟ้านี่ นอกจากภูมิทัศน์เมือง (ลานสายตาที่มองเห็น ฯลฯ) จะทำให้เมืองเก่า (อโยธยา-อยุธยา) จะกลายเป็น “เมืองตุ๊กตา” แล้ว ทั้งหลักฐานใต้ดินและหลักฐานบนดิน เช่นโบราณสถานต่างๆ ฯลฯ จะต้องเสียหายกระจัดกระจายไปตามแนวเส้นทางรถไฟของเมืองเก่าอีกด้วย🙊😢
……….หากมาใช้แนวคิดรถไฟใต้ดิน และให้ “ถนนบางเอียน” ทำหน้าที่เชื่อมพื้นที่ อโยธยา (นอกเกาะเมือง) กับอยุธยา (เกาะเมือง) น่าจะเป็นการเปิดมุมมองใหม่ เพื่อเชื่อมพื้นที่สองฝั่งลำน้ำของสองเมืองเก่าเชื่อมกันมาสู่พื้นที่ใจกลางของเกาะเมืองที่สามแยกตรง “ถนนชีกุน” และที่สำคัญคือสามแยกของถนนสองเส้นนี้อยู่ใกล้กับฉนวนที่เป็นทางเข้าสู่วัดพระรามทางทิศตะวันออก (เป็นทางเดินที่ผ่านเข้ามาในบึงพระราม) ที่มีระยะเยื้องแกนกันเพียง ๓๐ เมตร (ในระดับเมือง)
……….ถนนชีกุนตรงบริเวณนี้ยังทำหน้าที่เชื่อมพื้นที่กับวัดมหาธาตุที่อยู่ติดกับบึงพระราม ทำให้ถนนบางเอียนทำหน้าที่เหมือนแกนสัมพันธ์ (Connecting Axis) เพื่อเชื่อมพื้นที่ทั้งสองฝั่งน้ำป่าสักผ่านเส้นทางสัญจรต่างๆจากสถานีรถไฟพระนครศรีอยุธยากับฉนวนทางเดินเข้าสู่วัดพระราม และวัดมหาธาตุโดยมีบึงพระรามเป็นพื้นที่โอบล้อมเชื่อมวัดสำคัญทั้งสองเข้าไว้ด้วยกันเชียว
……….แถมยังช่วยทำให้เกิดสภาพแวดล้อมสร้างสรรค์ เช่น เกิดความเคลื่อนไหวของผู้คน (Movement) ผ่านกิจกรรมต่างๆของเมืองได้ อาทิ กลางวันเป็นย่านการค้าของชาวเมือง กลางคืนเป็นถนนคนเดิน (Walking street) ฯลฯ เช่นพื้นที่บริเวณตั้งแต่ประตูท่าแพจนถึงหน้าวัดพระสิงห์ในเมืองเชียงใหม่ ฯลฯ (เพียงแค่ยกตัวอย่างเฉยๆ ไม่ต้องไปทำให้เหมือนกันนะ😆)
……….นอกจากนี้ การเปิดลาน-ปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ริมน้ำทั้งสองฝั่ง เพื่อเชื่อมพื้นที่การใช้งานเข้ามาสู่เกาะเมือง สามารถสร้างพื้นที่เรียนรู้ทั้งทางด้านภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ การเปิดมุมมองใหม่ที่ถนนบางเอียนยังสามารถพัฒนาให้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ (Muti-purpose) แนวคิดนี้จะช่วยให้บริเวณลานหน้าสถานีรถไฟ (อโยธยา) สามารถไปเชื่อมกับพื้นที่ริมน้ำฝั่งเกาะเมือง (อยุธยา) ที่สอดรับกับวิถีเมืองในปัจจุบัน
……….เท่าที่สำรวจ! ทั้งสองฝั่งน้ำนอกจากจะมีท่าเรือแล้ว ก็มีทั้งศาลเจ้าจีน โฮมสเตย์ ตลาด ท่ารถตุ๊กๆ รวมถึงเรือนแถวที่มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นที่เป็นย่านการค้าเก่า ฯลฯ องค์ประกอบเมืองของทั้งสองฝั่งน้ำที่เล่ามานี้เป็นวิถีเมืองของแท้ที่ยังคงอยู่ (ไม่ใช่Fakeแบบจัดตั้ง) น่าเดินเที่ยวเพื่อเรียนรู้จักวิถีเมืองมาก แถมละลายทรัพย์ช่วยอุดหนุนชาวเมืองได้ด้วย
……….อย่างที่รู้กัน ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเปนราชธานี “เส้นทางสัญจรทางน้ำ” ถือเป็นปัจจัยสำคัญทำให้อยุธยากลายสภาพเป็น “เมืองนานาชาติ” หากแต่วันนี้ เพื่อให้มีการสร้างสรรค์เมืองเก่าของพระนครศรีอยุธยาเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่คงความสมบูรณ์ สวยงามและมีความทันสมัย เพื่อเชื่อมต่อกับผู้คนด้วยการสัญจรในรูปแบบใหม่
……….รูปแบบใหม่ที่ว่าคือระบบขนส่ง “รางเหล็กแบบใต้ดิน” ที่สามารถสร้างการรับรู้และความเข้าใจต่อหมุดหมายแรกที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของกรุงศรีอยุธยา คือวัดพระราม ผ่านการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมให้เกิดมุมมองใหม่ๆด้วยการคงไว้ซึ่งความเคารพพื้นที่ศูนย์กลางเมืองเก่าทั้งสองฝั่งลำน้ำที่ยังคงมีกลิ่นอายและลมหายใจของเมืองมาถึงปัจจุบัน นั่นเอง
มาดูภาพและคำอธิบายพร้อมกัน
๑ แสดงแนวคิดการปรับปรุงพื้นที่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟพระนครศรีอยุธยา เพื่อเชื่อมลานท่าน้ำของสองฝั่งเมืองไปสู่ถนนบางเอียนตรงงไปสู่วัดพระราม ปรับปรุงภาพจาก Google Earth.
๒ ตัวอย่างกสนผสมผสานสิ่งที่มีคุณค่าในอดีต โดยการอนุรักษ์และพัฒนาพื้นที่ให้สอดคล้องวิถีเมืองในบริเวณโดยรอบของท่าช้าง วังหลวง กรุงเทพฯ มีอุโมงค์ใต้ดินควบคู่กับลานของเมือง
๓ จากภาพของท่าช้าง วังหลวง (ภาพก่อนภาพนี้) เป็นตัวอย่างที่นำมาพัฒนาเนื้อเมืองในบริเวณสถานีรถไฟพระนครศรีอยุธยา (ภาพนี้) ได้เช่นกัน หน้าสถานีมีรถตุ๊กๆจอดเรียงรายสีสันสวยงาม
๔ แสดงระยะเยื้องแกน (ราว ๓๐ เมตร) ระหว่างถนนบางเอียน กับฉนวนทางเดินเข้าสู่วีชัดพระราม (วงเมฆด้านบน) ทางทิศตะวันออกผ่านบึงพระราม (เส้นประสีขาว) มีวัดมหาธาตุกับวัดราชบูรณะ (วงเมฆขวาล่าง) ติดกับถนนชีกุน ปรับปรุงภาพจาก Google Earth.
๕ แสดงแกนของถนนบางเอียนพุ่งตรงจากบริเวณ “ศาลเจ้าพ่อจุ้ย” (ปึงเถ่ากงม่า) เชื่อมต่อกับถนนอู่ทอง เมื่อก่อนเคยเป็นท่าน้ำฝั่งตรงข้ามซอยหน้าสถานีรถไฟฯ ปรับปรุงภาพจาก Google Earth.
๖ ตัวอย่างแกนกลางเมืองของถนนท่าแพ ใจกลางเวียงเชียงใหม่ มีการจัดเป็น “ถนนคนเดิน” สลับกับการเปิดใช้งานสัญจรทั่ววไป ปรับปรุงภาพจาก Google Earth.
๗ ตัวอย่างการชพื้นที่ลานบริเวณ “ท่าช้าง วังหลวง” เพื่อให้รับกับการใช้งานหรือกิจกรรมของเมือง
๘ สภาพแวดล้อมของถนนซอยเชื่อมท่าน้ำกับถนนด้านหน้าของสถานีรถไฟฯงั่งอโยธยาตรงข้ามเกาะเมือง สามารถปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เป็นลานที่สอดรับกับวิถีเมืองของที่นี่ได้ เช่นกัน
๙ สภาพแวดล้อมในซอยท่าน้ำฯ ฝั่งซ้ายเป็นพื้นที่ใช้งานของรถไฟ อาคารไกๆกลางภาพคือสถานีรถไฟฯ
๑๐ “ศาลปุนเท่ากงม่า” (ปึงเถ่ากงม่า) ฝั่งสถานีรถไฟฯ มองผ่านแม่น้ำป่าสักเข้าไปที่เกาะเมืองมี “ศาลเจ้าพ่อจุ้ย” (ปึงเถ่ากงม่า) อยู่ตรงข้ามกัน
๑๑ “ศาลเจ้าพ่อจุ้ย” (ปึงเถ่ากงม่า) ฝั่งเกาะเมือง จะเห็นศาลเจ้าจีนที่มีเมพ (บุคลาธิษฐาน) องค์เดียวกันตั้งอยู่ตรงข้ามกัน เพื่อคุ้มครองผู้คนแต่ละฝั่งน้ำ
๑๒ ทางเชื่อมของพื้นที่ศาลเจ้าพ่อจุ้ยกับถนนบางเอียน (ที่มีรถวิ่งไป) มีถนนอู่ทอง (ถนนรอบเมือง) เชื่อมถนนบางเอียนกับพื้นที่บริเวณท่าน้ำ
๑๓ ถนนบางเอียนที่พุ่งตรงไปสู่วัดและบึงพระราม ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บริเวณนี้ยังคงมีเรือนแถวที่เป็นสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นที่ทรงคุณค่าเหลทออยู่มากมาย