“เวียงเล็ก” จาก วังสู่วัดริมน้ำนอกเกาะเมือง “อยุธยา”

ฅน บางกอก

๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔

ภาพนี้บันทึกด้วยการวาดสีน้ำ มองจากฝั่งเกาะเมืองไป“วัดพุทไธศวรรย์” ที่ตั้งอยู่นอกเกาะเมืองริมฝั่งน้ำเจ้าพระยาทางทิศใต้  หากมองพื้นที่ของเมืองที่มีฐานะเป็นราชธานีของกรุงศรีอยุธยาก็จะพบสภาพทางภูมิศสาตร์เป็นเกาะ มีลำน้ำสำคัญ ๓ สาย คือ “เจ้าพระยา” “ลพบุรี” และ “ป่าสัก” ไหลมาล้อมรอบตัวเกาะ  โดยลำน้ำเหล่านี้ไหลมาบรรจบกันครบทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะเมืองก่อนที่จะไหลไปสู่เมืองต่างๆ อาทิ บางปะอิน ปทุม นนท์ รวมถึง บางกอก ฯลฯ

ในอดีตบริเวณที่ตั้งของ“วัดพุทไธศวรรย์” เคยถูกเรียกทั้งคำว่า “เวียงเหล็ก” และ “เวียงเล็ก” แต่พอลองมาตั้งข้อสังเกตถึงช่วงเวลาสมัยนั้น ผู้ที่ตั้งชื่อ(คงจะเป็นพระเจ้าอู่ทอง)น่าจะตั้งใจให้หมายถึง “เวียงเล็ก” มากกว่า  เพราะสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ขณะนั้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่พระเจ้าอู่ทองจะตั้งเมือง และ “วัง” ที่อยู่ในเกาะเมืองตามหลักฐานที่พบในปัจจุบัน

เมื่อแรกตั้ง“เมือง” หรือ “เวียง” ในระยะแรกอยู่นอกเกาะเมืองและมีขนาดเล็ก โดยบริเวณพื้นที่ตั้งของวังก็คือที่ตั้งของวัดพุทไธศวรย์  ส่วนพื้นที่ของเวียงคือ“เมืองแรกเริ่มที่มีขนาดเล็ก” คงตั้งอยู่รอบๆวัด  ส่วนคำว่า “เวียงเหล็ก” น่าจะเป็นสำเนียงทางภาษาพูดมากกว่า(ซึ่งก็น่าจะมีความหมายถึงเวียงเล็ก นั่นแหละ)

ภายหลังจากที่ได้สร้างเมืองตามความมุ่งหมายที่อยู่ในเกาะเมืองเป็นรูปเป็นร่างแล้ว พระเจ้าอู่ทองจึงย้ายเมืองจาก “เวียงเล็ก” เข้าไปในเกาะเมือง โดยมี“บึงพระราม”เป็นแหล่งน้ำสำคัญกลาง “เวียงใหม่” จากนั้นพระองค์จึงทรงปรับพื้นที่ของ “เวียงเล็ก” ซึ่งเป็นพื้นที่ใช้งานอันเป็นมงคลของเวียงเดิมแห่งนี้ให้เป็นวัดคือ “วัดพุทไธศวรรย์” เพื่อเป็น“อนุสรณ์แห่งการตั้งเมือง”ในช่วงเวลาแรกเริ่ม และเพื่อ“ถวายเป็นพุทธบูชา”อีกประการหนึ่ง

มุมที่เดินมานั่งวาด ก็เป็นมุมที่แลไปวัดพุทไธศวรรย์  ในภาพจะเห็นจุดเด่นที่เป็นพระเอกของภาพ คือ “พระมหามณฑปสุวรรณโฑฬังรามาธิบดีที่ ๑” ตอนวาดเป็นช่วงเวลา ๖ โมงเช้า ตอนลงสีฟ้าก็ยังครึ้มๆ ชิลๆตามภาพ สักพักแดดเปรี้ยงจางปาง มองย้อนแสงในบัดดล รีบสะบัดพู่กันแข่งกับความร้อนแทบไม่ทัน 555

“พระมหามณฑปสุวรรณโฑฬังรามาธิบดีที่ ๑” สร้างจากความตั้งใจของ “พระพุทไธศวรรย์วรคุณ” หรือ “หลวงปู่ทวล” โดยสร้างไว้ในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ ตามท้องเรื่องแบบเคร่าๆ ระบุว่า พระเจ้าอู่ทองมาเข้าฝันให้ท่านสร้างสิ่งต่างๆ รวมถึง พระมหามณฑป ๘ ทิศ (คืออาคารหลังนี้)  โดยพระเจ้าอู่ทองมาบอกหลวงปู่ทวลว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องปัจจัย ให้สร้างได้เลย 55 เดี๋ยวจะหาปัจจัย(งบก่อสร้าง)มาให้เอง 555

แถมนิส ช่วงนี้ที่เกาะเมืองอยุธยาจัด Light and Sound และมีสิ่งน่าสนใจอื่นๆอีก ในงาน “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก” งานมีถึงวันที่ ๒๖ ธค. ๖๔  คนที่สนใจงานแนวนี้ หรืออยากลองมาเปลี่ยนบรรยากาศแบบ ชิลๆ สบายๆ เคล้าความขลัง พร้อมโต้ลมเย็นยามแดดร่มฯ ก็ลองมาสัมผัสกันดูได้

เท่าที่ได้ “เดินไป วาดไป” ณ กรุงเก่า แบบปุบปับก่อนวันงาน และมีโอกาสสัมผัสชาวบ้าน ผู้คนชาวกรุงเก่า เขาอยากกลับมาลืมตาอ้าปาก และพร้อมต้อนรับมิตรสหายที่จะไปเยี่ยมเยือน“กรุงเก่า” อีกครั้งกันแล้ว  ออ เที่ยวให้สนุก ปลอดภัย และสบายใจ อย่าลืมวิถีใหม่ “นิวนอมอล” กันด้วยนะ 555  หากเที่ยวกันแบบมีสติ ปีหน้าฟ้าใหม่ เราอาจได้เดินทางท่องเที่ยวแบบสบายใจกันทั้งปี ไม่ต้องมาจับเจ่าอยู่แต่ในคอกอย่างที่ผ่านมา 55